Tuesday, 12 November 2013

แนะนำ Prepaid Sim Card สำหรับใช้โทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตในสิงคโปร์

สำหรับเพื่อนๆ นักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์และต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตต่างๆ และไม่ต้องการที่จะเสียค่าบริการโรมมิ่งแพงๆ จากเมืองไทย สามารถหาซื้อซิมการ์ดของผู้ให้บริการที่ประเทศสิงคโปร์ได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าใครใช้โทรศัพท์ที่รองรับ 4G LTE สามารถใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจากโทรศัพท์ได้สะดวกรวดเร็วมากๆ

ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของสิงคโปร์มีอยู่ 3 ราย คือ SingTel, Starhub และ M1 โดยนักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อซิมการ์ดแบบ Prepaid เพื่อใช้โทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ตได้ รวมถึงบัตรเติมเงินได้ตามร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11 และ Cheers, และ ร้านของผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น SingTel Shop, Starhub Shop หรือ M1 Shop (ส่วนใหญ่อยู่ตามห้าง)

อัตราค่าใช้บริการของผู้ให้บริการทั้งสามรายมีราคาไม่ต่างกัน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อได้ตามสะดวก ทางเว็บรู้จริงขอยกราคาของ Starhub มาให้ดูเป็นตัวอย่าง




Starhub’s MaxMobile Prepaid Internet SIM (สำหรับใช้อินเตอร์เน็ตบทแท็บเล็ตต่างๆ)

มี 2 ราคาคือ
  1. S$18 ใช้อินเตอร์เน็ตได้ติดกัน 5 วันติดกันไม่จำกัด และสามารถซื้อบัตรเติมเงินแล้วเลือก Plan ได้
  2. S$32 ใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่จำกัดตาม Plan ที่เลือก มีทั้งรายวัน ราย 3 วัน หรือ อื่นๆ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและ Plan ต่างๆ ได้ที่นี่ 








ดูรายละเอียด SingTel Prepaid Benefit









ร้าน 7-11 และ ร้าน Cheers อาจจะไม่มีซิมทุกราคา ให้ลองไปสอบถามที่ร้านของผู้ให้บริการแทน


*หมายเหตุ ร้านขายโทรศัพท์มือถือ (ลักษณะเหมือนในมาบุญครอง) มักไม่มีบริการขายซิมการ์ดหรือบัตรเติมเงิน หรือถ้ามีก็มักมีราคาแพงและมักจะหลอกให้นักท่องเที่ยวเสียเงินเกินกว่าที่ควร นักท่องเที่ยวควรจะหลีกเลี่ยงการซื้อซิมการ์ดตามร้านขายโทรศัพท์ใน Lucky Plaza และ Funan นักท่องเที่ยวควรจะศึกษาราคาซิมการ์ดแบบต่างๆ ให้ดีก่อนเดินทาง


ขอขอบคุณข้อมูลจากรู้จริงสิงคโปร์

Monday, 11 November 2013

รู้เกี่ยวกับบัตรบัตร EZ-Link / STP ทำให้การเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT LRT หรือรถเมล์ในสิงค์โปร์ง่ายๆ

การท่องเที่ยวสิงคโปร์เองอย่างง่ายนั้น วิธีแรกเลยคือต้องมีการ์ด EZ-Link ก่อน
เพื่อให้สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าหรือรถเมล์ได้โดยสะดวกเมื่อซื้อการ์ดแล้ว จะได้วงเงินสำหรับโดยสาร สามารถเติมเงินได้ที่สถานีทุกสถานี และ 7-11 ซึ่งจากสนามบิน Changi Airport ก็จะมีการ์ดนี้ขายที่สถานี MRT ของที่นั่น

การซื้อขายการ์ดแนะนำให้ซื้อที่ Passenger Service Centres เพราะที่ TransitLink Ticket จะเปิดปิดเป็นเวลา
โดยซื้อที่ TLT และ PSC จะเสียค่าบัตรละ 12 SGD โดยค่าแบ่งเป็นค่ารถ 7 SGD และ ค่าบัตร 5 SGD
หากซื้อที่ 7-11 จะเสียค่าบัตรละ 10 SGD แบ่งเป็นค่ารถ 5 และค่าบัตร 5
หากค่ารถหมดก็เติมได้ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี หรือจะ Top Up ล่วงหน้าแล้วแลกคืนภายหลังก็ได้

ดูเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ http://www.ezlink.com.sg/ez-link-card/where-cards-sold.php

หลังจากเรามีการ์ด EZ-Link แล้ว
แนะนำว่าให้หาแผนที่สถานีรถไฟฟ้าไว้ก่อน (แต่ที่สถานีก็คงมีแผนที่บอกไว้อยู่แล้ว)
รวมทั้งแผนที่ท่องเที่ยว ว่าบริเวณสถานีรถไฟฟ้าไหน ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอะไร
แนะนำเวบไซต์ http://mappery.com
โดยดูแผนที่ของ MRT สิงคโปร์ได้ที่ http://mappery.com/map-of/Singapore-MRT-Map


สรุปนะคะบัตร MRT สิงคโปร์ โดยหลักๆมีทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
  1. Standard Ticket – บัตรโดยสารทั่วไปแบบเที่ยวต่อเที่ยว หรือ single ticket ซื้อผ่านทางเครื่อง General Ticketing Machine ระบบจะคิดค่ามัดจำบัตรโดยสารเป็นเงิน 1 ดอลลาร์ เมื่อถึงที่หมายแล้ว เมื่อนำบัตรไปคืน ระบบก็จะคืนเงินส่วนที่มัดจำไว้กลับมา
  2. EZ-Link – บัตร smart card แบบเติมเงินนั่นเอง คุณต้องเติมเงินเข้าไปในบัตรก่อน หลังจากนั้นก็จะสามารถนำเอาบัตรนี้ไปใช้ได้โดยมูลค่าของบัตรจะถูกหักออกไปตามระยะการเดินทาง แถมบัตรนี้ยังอำนวยความสะดวกคือนำไปใช้กับ รถเมล์ ได้ส่วนลดต่างๆ และยังใช้ซื้อของแทนเงินสดได้อีกด้วย
  3. Nets Flashpay – จะคล้ายๆกับบัตร EZ Link แต่จะมีอายุการใช้งาน และได้ส่วนลดโปรโมชั่นมากกว่า ซึ่งก็ต้องจ่ายค่าทำบัตรแพงขึ้นเช่นกัน
  4. STP (Singapore Tourist Pass) – บัตรแบบเหมาจ่ายรายวัน มีทั้งแบบ 1 วัน , 2 วัน และ 3 วัน ต้องจ่ายค่ามัดจำบัตรอีก 10 เหรียญ ถ้าไม่เอาบัตรไปคืนภายใน 5 วัน เงินมัดจำจะถูกยึดและบัตรนั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นบัตร EZ Link อัตโนมัติ 
นอกจากนั้น ยังมีบัตรแบบ STP หรือ Singapore Tourist Pass
ซึ่งเสียค่ารถ 8 SGD แล้วจะขึ้นจะลงสถานี MRT กี่รอบก็ได้ใน 1 วัน 
STP นั้นใช้ได้จนถึงแค่เวลารถขนส่งหรือรถไฟปิดบริการของวันนั้น ซึ่งจะใช้ได้ถึงประมาณเวลา 0.30 น.

ดูข้อมูลการซื้อขายได้ที่ http://www.thesingaporetouristpass.com
นอกจากนั้นบัตรยังมีขายแบบ 2 - 3 วันด้วย หากเที่ยว 3 วัน ก็ซื้อบัตรแบบ 3 วันไว้ได้เลย
บัตรสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ แต่ราคาแพงขึ้น(คาดเดาว่ารวมค่า shipping ที่แพงพอดู)




สถานีที่น่าสนใจต่างๆ
  • เกลัง(geylang) ขึ้นสายสีเขียว ลงที่สถานี Aljunied 
  • บูกิส (Bugis) ขึ้นสายสีเขียว ลงที่สถานี Bugis
  • มูสตาฟา(Mustafa) ขึ้นสายสีม่วง ลงที่สถานี Farrer Park ออกประตู้ H 
  • เซนโตซ่า (Sentosa) ขึ้นสายสีม่วง ลงที่สถานี Harbourfront แล้วให้เดินไปตามป้ายบอกทาง Sentosa express VivoCity L3
ซื้อตั๋ว เพื่อนั่งรถไปยัง Sentosa ราคาบัตร $ 3.50 หรือใช้บัตร EZ link ก็ได้
  • ไชน่าทาวน์ ( Chinatown) ขึ้นสายสีม่วง ลงที่สถานี Chinatown
  • เมอริน่าเบย์ (Marina Bey) ขึ้นสาย สีแดง หรือ สีเหลือง ลงที่สถานีMarina Bey
*MRT สิงคโปร์ เชื่อมต่อกันทุกสถานีไม่ต้องกลัวหลง สังเกตุเครื่องหมายเชื่อมต่อในแผนที่ สามารถเปลี่ยนขบวนไปยังสายต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย



Saturday, 9 November 2013

10 ที่เที่ยวชิว ๆ ที่น่าอัพรูปลง Instagram @สิงคโปร์

1. CLARKE QUAY












จากท่าเทียบเรือที่เป็นแหล่งศูนย์กลางการค้าในศตวรรษที่ 19 

ได้กลายมาเป็นแหล่งบันเทิงยอดฮิตอีกย่านในสิงคโปร์

สัมผัสสีสันและความมีชีวิตชีวาได้ตลอดค่ำคืนกับร้านอาหาร

ผับ บาร์ ในสไตล์ที่เพื่อนๆ ชื่นชอบ

ไม่ว่าจะนั่งทานอาหารค่ำชิลๆ ฟังดนตรีสด หรือแดนซ์สุดเหวี่ยง

เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมแม่น้ำสิงคโปร์และความงดงามของสถาปัตยกรรมอาคารเก่าได้ลงตัว

การเดินทาง : MRT CLARKE QUAY STATION

ร้านชิลแนะนำ

*AQUANOVA RESTAURANT BAR*

ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งบันเทิงของ Clarke Quay ที่เติมความสนุกให้ชีวิตยามค่ำคืนด้วยมื้อค่ำสุดอร่อย

และดนตรีสดที่ให้คุณสังสรรค์กันแบบเต็มรสชาติ และยังได้ชมบรรยากาศชิลๆ โดยรอบ หากเลือกที่นั่งบริเวณ outdoor


โทร : (+65) 6305 6768

เปิดบริการ อาทิตย์/อังคาร/พฤหัส 18.00-03.00 น.

พุธ 18.00-04.00 น.

ศุกร์-เสาร์และวันก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ 18.00-05.00 น.

http://www.aquanova.sg


2. Erskine Road - Ann Siang Road - Club Street (China Town)











ถนนสามสายที่ติดกับ China Town กลายเป็นย่านใหม่ของคนรุ่นใหม่ ไอเดียเฉียบ
โด่งดังในด้านสินค้าโบฮีเมียนและบูติคของเหล่าดีไซน์เนอร์

จนมีฉายาว่า "Designer Hill" ของสิงคโปร์

สามารถเดินชมร้านแฟชั่น แวะทานเบเกอรี่โฮมเมด หรืออาหารยุโรป

กลางคืนก็แวะจิบไวน์หรือฟังเพลงชิลๆ เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมบาร์และคลับตลอดทั้งสาย

สนุกได้ทั้งวันและกลางคืน


การเดินทาง : MRT CHINATOWN / TANJONG PAGAR STATION
 ร้านชิลแนะนำ
*ANTOINETTE*

ชิมรสชาติหวานหอมอร่อยของเบเกอรี่ พาสทรี และอาหารว่างขึ้นชื่อ

พร้อมจิบชาในบรรยากาศแบบฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว


โทร : (+65) 6557 0417

เปิดบริการ ทุกวัน 11.00-22.00 น.

http://www.antoinette.com.sg


3. GARDENS BY THE BAY










สวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าวมารีน่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์

ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 101 เฮกเตอร์

Gardens by the Bay จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการแสดงวิสัยทัศน์และสะท้อนภาพของสิงคโปร์

ในฐานะ "เมืองในสวน" ที่พื้นที่ทั้งประเทศถูกรายล้อมไปด้วยพืชพรรณไม้นานาชนิด

Highlight ในโซน Bay South คือ เรือนต้นไม้ [Conservatory Complex]

โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ Flower Dome จัดแสดงพรรณไม้เขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน

และ Cloud Forest จำลองป่าและน้ำตกที่ประกอบไปด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้น

บริเวณสวนยังมี Super Tree ที่มีความสูงตั้งแต่ 25-50 เมตร ดูโดดเด่นจนกลายเป็นสัญลักษณ์ ของสถานที่่ท่องเที่ยวนี้ด้วย

การเดินทาง : MRT BAYFRONT STATION

โทร : (+65) 6420 6848

เปิดบริการ ทุกวัน 'Bay South Outdoor Gardens' 05.00-02.00 น.

'Cooled Conservatories & OCBC Skyway' 09.00-21.00 น.

'Garden Cruiser' จันทร์-ศุกร์ 10.00-17.00 น.

เสาร์-อาทิตย์ 10.00-16.00 น.


http://www.gardensbythebay.com.sg


4. ART SCIENCE MUSEUM

















พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์แห่งแรกของโลก 

ออกแบบเป็นรูปดอกบัว โดย โมเช่ ซาฟดี้ สถาปนิกชื่อดังของโลก

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์บริเวณรอบๆ Marina Bay

ประกอบด้วยห้องจัดแสดง 21 ห้อง

โดยจัดแสดงงานที่ครอบคลุมตั้งแต่ศิลปะและวิทยาศาสตร์

สื่อและเทคโนโลยี รวมไปถึงการออกแบบและสถาปัตยกรรม


การเดินทาง : MRT BAYFRONT STATION


ตั๋ว : ผู้ใหญ่ $28 เด็ก 2-12 ปี $16

เปิดบริการ ทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-22.00 น.

5. MERLION PARK








สวนสาธารณะบริเวณมารีน่า เบย์ ที่มี "Merlion"

ซึ่งเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นที่ได้รับออกแบบตั้งแต่ปี 1964

คือ รูปปั้นสิงโตทะเลครึ่งปลา ยืนตระหง่านบนยอดคลื่น

บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมชม

และถ่ายภาพ คู่กับ Merlion พ่นน้ำอยู่เสมอ

และใกล้ๆ กันเป็นลานเดินเล่นยาวตลอดสาย

โดยมีร้านอาหาร ผับ บาร์และโรงแรมชั้นนำให้เลือกมากมาย


การเดินทาง : MRT Raffles Place Station


ตั๋ว : เข้าชมฟรี
เปิดบริการ ทุกวัน


6. SINGAPORE FLYER








ชิงช้าที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ให้เพื่อนๆ เพลิดเพลินกับวิวบริเวณแม่น้ำสิงคโปร์ได้ทั่วถึง 360 องศา

บนความสูงถึง 165 เมตร ในแคปซูลติดแอร์รูปทรงกระบอกกั้นด้วยกระจกป้องกันรังสียูวี

แต่ละแคปซูลบรรจุได้ 28 คน โดยมีให้เลือกแบบแคปซูลธรรมดา

แคปซูลคอกเทลหรือแชมเปญที่เสิร์ฟอาหารและของหวานในบรรยากาศพิเศษ


7. THE HELIX BRIDGE











ชื่อเดิมคือ Double Helix Bridge

เป็นสะพานทอดยาวไปฝั่งมารีน่า เบย์ เหล็กแต่ละเส้นยาวเป็นเกลียวต่อกันตลอดแนวสะพาน

ที่ยาวประมาณ 300 เมตร และมีแสงไฟตลอดทาง

ดีไซน์นี้มาจากแนวคิดของความสัมพันธ์ของโลกและมนุษย์

ถ้าสังเกตดีๆ บนสะพานจะมีตัวอักษร c, g, a และ t ส่องแสงสีเขียวแดง สลับกันไปมาบนพื้น

ซึ่งมีความหมายมาจาก Cytosine, Guanine, Adenine และ Thymine

ซึ่งเป็นส่วนประกอบใน DNA ของเรา

นอกจากจะเป็นสะพานข้ามฝั่ง ยังเป็นจุดชมวิวมารีน่า เบย์ ที่น่าประทับใจจุดหนึ่งอีกด้วย

การเดินทาง : MRT Bayfront Station
ตั๋ว : ฟรี
เปิดบริการ ทุกวัน

8. HAJI LANE





















Street Fasion ที่รวมร้านขายสินค้าจากดีไซน์เนอร์ท้องถิ่น

ในอาคารเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นตึกเก่าสมัยก่อนสงคราม

แต่ทาสีและเพิ่มลูกเล่นด้วยกราฟิตี้ดีไซน์

ทำให้ถนนสายนี้กลายเป็นแหล่งดื่ม กิน ช้อปสุดฮิปแบบไม่ติดแบรนด์ดัง


การเดินทาง : MRT BUGIS STATION

ร้านชิลแนะนำ

*BLU JAZ CAFE'*

บรรยากาศ อาหาร เสียงเพลง พร้อมให้ทุกคนมาดื่มด่ำกันอย่างเต็มที่

มีให้เลือกแบบบุฟเฟ่ต์ และแบบสั่งตามใจชอบ

เมนูแนะนำ "นาโช่" กับ "โฮมเมดซาลช่าดิพ" ที่ขึ้นชื่อ



โทร : (+65) 6292 3800

เปิดบริการ จันทร์-พฤหัส 12.00-01.00 น.

ศุกร์ 12.00-02.00 น.

เสาร์ 16.00-02.00 น.

ปิดวันอาทิตย์

http://www.blujaz.net


9. ROBERTSON QUAY
















บริเวณริมแม่น้ำสิงคโปร์ที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ให้กลายเป็นย่านที่พักอาศัยและร้านค้า

รวมทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ คาเฟ่เท่ห์ๆ มีสไตล์

บรรยากาศต่างกันทั้งกลางวันและกลางคืน ติดริมน้ำ

ให้บรรยากาศร่มรื่นและชิลไม่แพ้ย่าน Clarke Quay และ Boat Quay


การเดินทาง : MRT CLARKE QUAY STATION

ร้านชิลแนะนำ

*BAR BAR BLACK SHEEP*

ร้านอาหารสุดฮิป แบบ Open Air เสิร์ฟอาหารไทย ตะวันตก และอินเดียเหนือ

จากมาสเตอร์เชฟของอาหารแต่ละชาติ พร้อมเครื่องดื่มที่ให้คุณเลือกตามสไตล์ที่ต้องการ

โทร : (+65) 6836 9255

เปิดบริการ จันทร์-พฤหัส 11.00-24.00 น.

ศุกร์-เสาร์ 09.00-02.00 น.

อาทิตย์ 09.00-24.00 น.

http://www.bbbs.com.sg


10. TIONG BAHRU








ย่านอสังหาริมทรัพย์ในยุคแรกเริ่มที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตเรียบง่าย

ตอนนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ฮิปสเตอร์ทั้งหลายพลาดไม่ได้

มีร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านไวน์ ร้านหนังสือน่ารักๆ มาให้เลือกชม เลือกช้อป และพักผ่อนกันเพียบ


การเดินทาง : MRT TIONG BAHRU STATION

ร้านชิลแนะนำ

*FORTY HANDS COFFEE SHOP*

คาเฟ่เก๋ๆสไตล์ออสเตรเลีย กาแฟที่นี่มีรสชาติกลมกล่อม

ซึ่งเป็นเครื่องดื่มขึ้นชื่อของร้าน

ถ้าไม่ดื่มกาแฟ ช็อคโกแลตเย็นก็กลมกล่อมไม่แพ้กัน

พร้อมเลือกเมนูของหลักและของว่างที่ลงตัว

โทร : (+65) 6225 8545

เปิดบริการ อังคาร-พฤหัส 08.00-19.00 น.

ศุกร์-เสาร์ 08.00-22.00 น.

http://www.40handscoffee.com


Thursday, 7 November 2013

รีวิว สิงคโปร์ฟลายเออร์ (Singapore Flyer)


สิงคโปร์ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) ถือว่าเป็นชิงช้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความสูง 165 เมตร ซึ่งสูงกว่าลอนดอนอายถึง 30 เมตรเลยทีเดียวค่ะ เมื่อมองวิวจากด้านบนคุณจะเห็นทัศนียภาพอันงดงามของสิงคโปร์ และบริเวณศูนย์กลางการค้าย่านมารีน่า ซึ่งสามารถมองไปรอบๆได้ทั่วทิศ 360 องศา

สิงคโปร์ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) ถูกออกแบบเป็นแคปซูลรูปทรงกระบอกมีกระจกช่วยปกป้องรังสี UV ได้ ดังนั้นผู้เยี่ยมชมสามารถมองเห็นวิวของเมืองสิงค์โปร์ได้ไกลสุดลูกหูลูกตาแล้วยังมองเห็นวิวที่อยู่ด้านล่างได้อีกด้วย แต่ละแคปซูลจะมีแอร์ปรับอากาศทำให้รู้สึกเย็นสบายพอเหมาะกับพื้นที่ 28 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีม้านั่งเล็กๆ ไว้สำหรับคนที่มีความกล้าน้อยให้ได้เพลิดเพลินไปกับการชมวิวพร้อมกับความสะดวกสบายด้วยไม่ต้องกังวลและการหมุนแต่ละรอบใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ละแคปซูลจุคนได้ 28 คน นอกจากนี้ยังมีเสียงบรรยายมุมมองทัศนียภาพต่างๆ ที่คุณมองเห็นได้รอบทิศ หรือว่าคุณจะเพิ่มสีสันด้วยการเลือกแพ็คเกจจากที่เค้ามีให้อยู่แล้วก็ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อสวีทกับคู่รักของคุณ คุณก็เลือกแบบค็อกเทลหรือแชมป์เปน พร้อมกับมีของหวานต่างๆ ที่มีการคัดสรรมาเป็นอย่างดี

ดังนั้น อย่าพลาด!! หากคุณได้มาเที่ยวสิงคโปร์ต้องลองนั่งชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสักครั้ง ดูทัศนียภาพของสิงคโปร์ในมุมมองที่แตกต่างและสวยกว่า ด้วยสิงคโปร์ฟลายเออร์ (Singapore Flyer)

ข้อมูลเพิ่มเติม www.singaporeflyer.com.sg

Wednesday, 6 November 2013

เที่ยวดูไฟ Supertree ที่ Gardens by the Bay

หากใครถามว่าตอนนี้ที่เที่ยวในสิงคโปร์ที่ไหนที่มาแล้วประทับใจสุดๆ ตอบได้ทันทีว่า

 Gardens by the Bay  ดูน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในโลกพร้อมเดินฝ่าป่าหมอกใน Cloud Forest Dome และดูพันธุ์ไม้หายากใน Flower Dome ที่เป็นเรือนกระจกติดแอร์สุดหรู

















โดยเฉพาะมาตอนเย็นๆ เพื่อมารอเวลาพระอาทิตย์ตกดินและรอดูไฟจาก ซุปเปอร์ทรีส์ (Supertrees) ต้นไม้จำลองขนาดยักษ์ สูงเท่าตึก 16 ชั้น ที่ถูกประดับด้วยพันธุ์ไม้เลี้อยและประดับประดาด้วยไฟสร้างบรรยากาศจำลองเหมือนดาวแพนโดร่าในหนังดังอวตาร มันสวยเหมือนหลุดเข้าไปอีกมิติหนึ่ง ยิ่งได้มานอนดูโชว์ไฟด้วยแล้ว มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก 















เมกะโปรเจ็คสร้างสวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าวมารีน่าเบย์ ตรงที่ว่างด้านหลังโรงแรม Marina Bay Sands นอกจากจะกลายมาเป็นสวนสาธารณะให้คนสิงคโปร์แล้ว ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาดูความอลังการของโครงสร้างต้นไม้ขนาดใหญ่สูง 25 – 50 เมตร เทียบได้กับตึกสูง 9-16 ชั้นทีเดียว แถมยังมีเจ้าซุปเปอร์ทรีส์นี้มากถึง 18 ต้นเรียงรายอยู่ในสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ โดยแต่ละต้นก็ถูกออกแบบให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ มีไม้เลื้อยปกคลุมสวยงาม และยามค่ำคืนจะโดนเด่นด้วยแสงไฟที่เปลี่ยนสีได้หลายสี ใครยังไม่เคยมา แนะนำให้มาดูให้ได้ห้ามพลาด


















ใน Cloud Forest จะมีน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ พร้อมด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้นมากมายในโดมจะออกแบบเป็นทางเดิน โดยเราจะเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดแล้วเดินไล่ลงมาจนถึงชั้นล่างที่เป็นป่าหมอกสวยงามมาก

ในส่วนของ Flower Dome จะเป็นที่จัดแสดงพรรณไม้จากเขคร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีต้นไม้ดัดยักษ์และปาล์มขวดมากมายให้เราได้ถ่ายรูป รวมถึงมีสวนจิ๋วน่ารักๆ ให้เราดูอีกด้วย เหมาะแก่การไปนั่งอ่านหนังสือ นั่งเล่นชิลๆ เพราะในเรือนกระจกจะติดแอร์ให้อากาศเย็นสบาย และมีกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้และต้นไม้ฟุ้งกระจายไปทั้งโดม


หลังจากเที่ยวในเรือนกระจกทั้งสองเรือนเสร็จแล้วอย่าลืมตีตั๋วขึ้นไปเดินบนทางเดินลอยฟ้า (OCBC Skypwalk) ที่เชื่อมซุปเปอร์ทรีส์ยักษ์สองต้นเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนจะมารอชมไฟจากซุปเปอร์ทรีส์ตอนค่ำๆ


ข้อมูลสำหรับมาเที่ยว การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์

เวลาเปิดปิดของส่วนต่างๆ

ทางเข้าประตูหน้า (Bay South Outdoor Gardens)
เปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 5:00 AM – 2:00 AM ทุกวัน

สวนเรือนกระจก (Cloud Forest & Flower Dome) & ทางเดินลอยฟ้า (OCBC Skyway):
เปิด 9:00 AM – 9:00 PM ทุกวัน
เคาว์นเตอร์ขายตั๋วจะให้บริการถึงแค่ 8:00 PM
ประตูทางเจ้าเรือนกระจกจะเปิดถึงแค่ 8:30 PM



รถบริการพาเที่ยวรอบสวน (Garden Cruiser)
จันทร์* – ศุกร์
9:30 AM – 5:00 PM (รอบสุดท้าย)
*เฉพาะวันจันทร์แรกของเดือนจะเปิดให้บริการรถเที่ยวแรกตอนเที่ยงตรง
เสาร์. อาทิตย์ และวันหยุดประจำชาติ
9:30 AM – 4:00 PM (รอบสุดท้าย)

ราคาตั๋ว

บริเวณสวนกลางแจ้งรวมถึงรอบๆ บริเวณซุปเปอร์ทรีไม่ต้องเสียค่าเข้า

ตั๋วเข้าชมสวนในเรือนกระจกทั้งสองแห่งและค่าขึ้นทางเดินลอยฟ้าสามารถซื้อได้พร้อมกันที่จุดขายตั๋วหน้าเรือกระจก ราคาปกติสำหรับนักท่องเที่ยวมีดังนี้












วิธีเดินทางมา การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ด้วยรถไฟ MRT

ให้นั่งมาลงที่สถานี Bayfront MRT Station (สายสีเหลือง Circle Line), แล้วเดินออกมาทาง Exit B ที่เขียนว่าไป Gardens by the Bay เดินตามทางลอดใต้ดินมาเรื่อยๆ จนสุดทางแล้วขึ้นลิฟท์มาด้านบนผิวถนน เดินมาทางขวาตามทางเดินจนมาถึงสะพานข้ามคลองเข้าสู่ Gardens by the Bay




Monday, 4 November 2013

สถานที่ช็อปปิ้งที่มาริน่าเบย์ Shopping at Marina Bay


สถานที่ช็อปปิ้งที่มาริน่าเบย์

CHIJMES
30 Victoria Street Tel: (65) 6332 6274/5 



สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด: City Hall (EW13/NS25)

หลังได้รับการปรับภาพลักษณ์ให้น่าดึงดูดใจในฐานะมรดกแห่งชาติ CHIJMES (ออกเสียงว่า “ไชเมส”) 
กลายมาเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ที่สำหรับรับประทานอาหาร และศูนย์รวมความบันเทิงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน จากที่เคยเป็นอดีตหนึ่งในคอนแวนต์ที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งของโลก ทำให้ตัวอาคาร CHIJMES สะท้อนสถาปัตยกรรมโกธิคออกมาอย่างเข้มขลัง และลานหินที่อยู่รายรอบยิ่งขับให้มันน่าท้าทายสำหรับการเตร็ดเตร่ดูรอบๆ โดยเฉพาะในช่วงอาทิตย์อัสดง


CityLink
1 Raffles Link



สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด: City Hall (EW13/NS25)

ศูนย์การค้าแบบ “pedestrian mall” ใต้ดินแห่งแรกของสิงคโปร์ที่เชื่อมต่อสถานี MRT City Hall เข้ากับจัตุรัส “Marina Square” และศูนย์สรรพสินค้า “Suntec City Mall” ร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์แนมชั้นนำ ร้านอาหารจำนวนมาก มารวมกันอยู่ที่นี่  อาทิ Adidas, Lee Hwa Jewellery, FCUK, Loccitaine, HMV music store, The Coffee Connoisseur (TCC), ร้านอาหาร Thai Express and Nooch Resturant.


Marina Square

6 Raffles Boulevard Tel: (65) 6335 2613



สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด : City Hall (EW13/NS25)

“Marina Square Shopping Mall” คือหนึ่งในศูนย์สรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ภายในตัว
อาคารสูง 4 ชั้นมีร้าค้าประดับตกแต่งอย่างสวยงามให้เลือกช็อปปิ้งกว่า 250 ร้าน พร้อมด้วยโรงภาพยนตร์ Golden Village Cineplex และ Superbowl Bowling


Millenia Walk
9 Raffles Boulevard Tel: (65) 6883 1122















สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด : City Hall (EW13/NS25)

จากจำนวนร้านค้าที่มีมากกว่า 190 แห่ง ทำให้ “Millenia Walk “ กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างพิเศษสุดระหว่าง ร้านจากดีไซเนอร์ดัง ร้านสินค้าแฟชั่นอินเทรนด์ และ ร้านแบรนด์เนมดัง ที่นี่คุณจะได้พบกับร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นชั้นนำ อาทิ Raoul ร้านนาฬิกาหรู Hour Glass and Cortina E'space ซูเปอร์สโตร์สินค้าอิเล็กทรอนิกและเครื่องใช้ไฟฟ้า Harvey Norman และบรรดาร้านอาหารที่พร้อมนำเสนอเมนูเด็ดจากทั่วทุกมุมโลก



ศูนย์สรรพสินค้า “Raffles City Shopping Centre”
252 North Bridge Road Tel: (65) 6338 7766 













l สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด : City Hall (EW13/NS25)

“Raffles City Shopping Centre” คือส่วนหนึ่งของ “Raffles City Complex” ที่ได้รับการออกแบบโดย
สถาปนิกชื่อดังของโลก I.M.Pei ตัวคอมเพล็กซ์ประกอบไปด้วยโรงแรมหรู 2 แห่ง ภัตตาคารหลากชนิด และห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ในส่วนของศูนย์สรรพสินค้าคับคั่งไปด้วยบรรดาห้างสินค้าชั้นนำระดับรางวัลชนะเลิศ Robinsons & Co ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น แบรนด์เนมดังคับคั่ง 

อาทิ Tommy Hilfiger, Guess, Lifeshop, Country Road และ Metropolitan Museum of NY store ร้านจำหน่ายนาฬิกา จิวเวลลี่หรู สินค้าอิเลกทรอนิกไฮเทค กล้อง อุปกรณ์ภาพถ่ายและสายตา มีให้เลือกสรรมากมายนับไม่ถ้วน 


Raffles Hotel Shopping Arcade
328 North Bridge Road Tel: (65) 6337 1886














สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด: City Hall (EW13/NS25)

จากร้านค้าราว 70 แห่งในตัวอาเขตมี 5 แห่งที่ดำเนินงานโดยโรงแรม “Raffles Hotel” สินค้าที่จำหน่ายมีทั้งของที่ระลึกฝีมือประณีตจาก Raffles หนังสือ ภาพพิมพ์ รูปแกะสลัก และสินค้าขึ้นชื่อประจำท้องถิ่น อาทิ เสื้อผ้าแฟชั่น จิวเวลลี่นาฬิกาหลากชนิด โบราณวัตถุ ของกระจุกกระจิก ของที่ระลึก และที่พิเศษสุดคือ ร้าน “Thos S.B. Raffles” ซึ่งเชี่ยวชาญเป็นเลิศในด้านอาหารและเครื่องดื่ม “Ludwig Reiter” ร้านจำหน่ายงานฝีมือนานาชนิด และรองเท้าทำมือ และร้าน “Escentials” ร้านน้ำหอมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร


Suntec City Mall
3 Temasek Boulevard Tel: (65) 6821 3668













สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุด: City Hall (EW13/NS25)

ช็อปปิ้งมอลล์ยักษ์ขนาด 83,850 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ 
แบ่งเป็น 4 ธีมโซน
Galleria, Tropics, Entertainment Centre และ Fountain Terrace “Galleria” ถูกวางให้เป็นแหล่งรวมของบรรดาร้านค้าแบรนด์เนมชั้นดังมากมายหลายชนิดสินค้า และรวมถึงแบรนด์ดังของสิงโปร์ นอกจากร้านดังอย่าง G200 flagship แล้ว ยังมี Mango ร้านค้าขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียรวมอยู่ด้วย ร้านแบรนด์เนมดังจำหน่ายสินค้าหลากหลายอาทิ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เครื่องแต่งกายชุดลำลอง ชุดชั้นในและสินค้าเพื่อความหย่อนใจ ในส่วนของ “Tropics” มีไฮเปอร์มาร์ตยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศสอย่างคาร์ฟูร์เปิดจำหน่ายสินค้าราคาถูกที่สุดในเมือง โซนที่ถือว่าเป็นหัวใจคือ Fountain of Wealth ได้รับประกาศเกียรติคุณถูกบันทึกโดยกินเนส บุค เวิลด์ ออฟ เรคคอร์ด ให้เป็นน้ำพุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก



ขอบคุณข้อมูลจาก


http://www.visitsingapore.com/publish/stbportal/th/home/what_to_do/shopping/where_to_shop/shopping_in_bras_brasah.html

Friday, 1 November 2013

สถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์ ที่ไม่ควรพลาดถ้าคุณได้มาเยือน




สิงคโปร์ ถือว่าเป็นสีสันของทวีปเอเชีย เป็นเมืองปากอ่าวที่ต้อนรับนักเดินทางจากตะวันตกสู่คาบทวีปตะวันออก เป็นเมืองที่มีความแตกต่างที่ลงตัวทั้งด้านวัฒนธรรม ความเชื่อ ศิลปะและเทคโนโลยี ประเทศบนเกาะเล็กๆ เกาะนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวแทบจะทุกมุม วันนี้  mylovediary ได้รวบรวมข้อมูลของจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และเป็นที่นิยมในปีล่าสุดของสิงคโปร์ ถ้าคุณมาแล้วไม่ได้ไป ขึ้นชื่อว่าอาจจะมาไม่ถึงสิงคโปร์กันเลยทีเดียวนะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใดกันบ้าง เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

Merlion Park 















สถานที่สุดฮิตที่ใครๆ ก็มาถ่ายรูปกับเจ้าสิงโตพ่นน้ำสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ พร้อมชื่นชมบรรยากา๋๋็๋ศรื่นรมย์ของอ่าวมารีน่าเลื่องชื่อ มองไปเห็นมารีน่าเบย์ แซนด์สตั้งตระง่าน ยามพลบค่ำ จะได้ภาพ City Skyline ของสิงคโปร์ ที่เป็นหมู่ตึกสำนักงานจากย่าน Raffles Place


มาริน่า เบย์ (Marina Bay) 















จุดท่องเที่ยวริมน้ำ ริมปากอ่าวของสิงคโปร์ เป็นที่ตั้งของร้านค้าหรูหรา ภัตตาคารห้าดาว ร้านสินค้าแบรนด์เนม โรงภาพยนตร์ โรงละครชั้นนำ และรีสอร์ท – คาสิโนชื่อดังระดับโลก มาริน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands) จุดปากอ่าวจุดนี้ ถือเป็นหัวใจหลักของเมืองและเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองจุดอื่นๆ และไม่ไกลจากชิงช้าสวรรค์ยักษ์ (Singapore Flyer) 

ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ สิงคโปร์ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) คลิกดูรีวิวเต็มที่นี่จ้า ++

















ชมเมืองสิงคโปร์มุมสูง ด้วย ชิงช้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสูงถึง 165 เมตร จากบนชิงช้าจะสามารถเห็นวิวสิงคโปร์ได้รอบทั้ง 360 องศา ที่ว่ากันว่าเป็นอีกฟากหนึ่งของ ลอนดอน อาย (The London Eye) ในฝั่งเอเชีย คลิกดูรีวิวเต็มที่นี่จ้า ++


 มาริน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands)

















สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์สุดฮิต โรงแรมที่มี SkyPark เป็นรูปเรือเชื่อมตึกสามตึกเข้าด้วยกันอันเป็น
สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของสิงคโปร์ สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ เดอะ แซนด์ส สกายพาร์ค (The Sands Sky Park) สระว่ายน้ำหรูกลางแจ้งที่สูงที่สุดของโลก

ที่นี่เป็นหนึ่งในสอง Integrated Resort ที่รวมเอาอภิมหาศูนย์รวมความบันเทิงหลากหลายเข้ามาไว้ในที่เดียวกัน มีทั้งคาสิโน่ระดับสากล ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ห้างสรรพสินค้า ร้านสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลก ร้านอาหารสุดหรู โรงภาพยนตร์ โรงละคร ภัตตาคาร ลานสเก็ตน้ำแข็ง   พิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยศาสตร์ (Art Science Museum) แห่งแรกของโลก และสะพานThe Helix Bridge เลื่องชื่อ 

หากใครมาสิงคโปร์แล้วพลาดไม่ได้มาถ่ายรูปกับมารีน่าเบย์ แซนด์สแล้วละก็ เหมือนมาไม่ถึงสิงคโปร์ทีเดียว



















เป็นแหล่ง “กิน – ดื่ม” ชั้นนำ พร้อมพรั่งไปด้วยร้านอาหารและผับขึ้นชื่อ ตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำของสิงคโปร์ ไม่ว่าคุณคิดจะไปชิมปูผัดพริกอันเลื่องชื่อ ไก่ทอดเจ้าอร่อย หรืออาหารเม็กซิกันเผ็ดร้อน และไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ร้านอาหารแถบนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง หรือหากคุณคิดจะนั่งจิบเบียร์เย็นฉ่ำฟังเพลงชิลๆ สารพัดผับที่จัดแบ่งตามแนวเพลงต่างๆ ก็มีอยู่มากมายเพื่อตอบรับทุกรสนิยมดนตรีของผู้มาเยือน














ดูน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในโลกพร้อมเดินฝ่าป่าหมอกใน Cloud Forest Dome และดูพันธุ์ไม้หายากใน Flower Dome ที่เป็นเรือนกระจกติดแอร์สุดหรู ก่อนจะไปชมความอลังการของ SuperTree ต้นไม้จำลองขนาดยักษ์ สูงเท่าตึก 16 ชั้น ที่ถูกประดับด้วยพันธุ์ไม้เลี้อยและประดับประดาด้วยไฟสร้างบรรยากาศจำลองเหมือนดาวแพนโดร่าในหนังดังอวตาร  คลิกดูรีวิวเต็มที่นี่จ้า ++


 เกาะเซ็นโตซา และ ยูนิเวิร์ลซัล สตูดิโอ (Resort World Sentosa / Universal Studio)














เป็นหนึ่งในสอง Integrated Resort ของสิงคโปร์ที่เนรมิตเกาะเซ็นโตซ่าให้เป็นดังสวนสนุกสำหรับครอบครัว สวนสนุกชื่อดังในเขตเซนโตซา (Sentosa) ถึงแม้ว่าจะเป็นสาขาของสวนสนุกระดับอินเตอร์เนชั่นแนลจากฝั่งอเมริกา แต่เครื่องเล่นในสวนสนุกจำนวน 18 ชนิดจากทั้งหมด 24 ชนิด ใน 7 โซนประเภทเครื่องเล่น ได้ถูกออกแบบและปรับแต่งให้เข้ากับอรรถรสของนักท่องเที่ยวท้องถิ่นและความนิยมของชาวสิงคโปร์โดยเฉพาะ ถือเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Universal Studios ที่มี ชื่อดัง สวนน้ำเปิดใหม่ โรงแรมชั้นนำ คาสิโน่ใต้ดิน ร้านอาหารและสถานบันเทิงมากมายไว้ในที่เดียวกัน เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาใข้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุข

Sentosa Island / Siloso Beach
















เพลิดเพลินกับกิจกรรมบนชายหาดเลื่องชื่ออันเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวสิงคโปร์มาช้านาน ตื่นตาตื่นใจกับทะเลที่มีฉากหลังเป็นเรือเดินสมุทรอยู่ที่เส้นขอบฟ้า และสนุกสนานไปกับเสียงเพลงจากบาร์ริมหาดพร้อมดูกิจกรรม outdoor sports เช่น เครื่องหัดเล่นวินเซิฟในร่ม กีฬาเหินเวหาในร่มที่ท้าทายให้คุณมาลองบินขึ้นฟ้ากับ เครื่องเล่น iFly ก่อนกลับอย่าลืมถ่ายรูปกับ Merlion ยักษ์ที่ตั้งตระง่ายกลางเกาะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ


ถนนออชาร์ด และซัมเมอร์เซท  (Orchard Road / Somerset )




ถนนสายเกษตรกรรมที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยคราคร่ำไปด้วยสวนพริกไทยและเครื่องเทศ แต่ปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นถนนช้อปปิ้งเส้นหลักของเมืองสิงคโปร์ แหล่งช็อปปิ้งที่ทันสมัยที่สุดกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำตลอดสองข้างถนน เส้นทาง 2.2 กิโลเมตร เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ไม่ว่าคุณกำลังมาตามหาหมูแผ่นอบน้ำผึ้งชั้นดีสูตรจีนโบราณ หรือแฟชั่น เสื้อผ้าฤดูกาลล่าสุด สารพัดร้านค้าบนถนนออชาร์ดนี้ มีให้คุณเลือกแวะชม และจับจ่ายได้อย่างเพลิดเพลินและไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

Little India / Mustafa
















หากมองหาประสบการณ์แปลกใหม่, Little India เป็นคำตอบหนึ่งที่ดีสำหรับการท่องเที่ยว เนื่องด้วยสถานที่ ที่ได้ค้นพบรากเหง้าของชาวเอเชียใต้จากประวัติศาสตร์สิงคโปร์ เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความหลงไหลใน an array of colourful saris, นกแก้วทำนายอนาคต, , ธูปฉุนและเครื่องเทศ,โบสถ์ฮินดูเก่าแก่มากมายในย่านที่มีชาวอินเดียอยู่อาศัยมากที่สุดในสิงคโปร์, and the latest Bollywood tunes amid ได้เป็นสิ่งที่ประดับให้เห็นในร้านโดยทั่วไปในย่านนี้ รวมทั้งช้อบปิ้งในห้างใหญ่มุสตาฟาที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและข้าวของทุกอย่างในราคาที่ถูกที่สุด รวมถึงเป็นแหล่งขายน้ำหอมแบรนด์ดังๆ ที่ถูกที่สุดในประเทศ

Chinatown / Buddha Tooth Relic Temple (วัดพระเขี้ยวแก้ว) / Maxwell Food Centre
















ย่านหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์, Chinatown ยังคงเป็นประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ของชาวจีนในประเทศนี้อยู่ จากส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเก่าแก่และความหรูหราทันสมัย เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด การเยี่ยมชมมรดกของ the Chinatown Heritage Centre เป็นวิธีที่ดีที่เราได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของชาวจีนในสิงคโปร์ได้มากยิ่งขึ้น ถือได้ว่าเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งในสิงคโปร์

เดินดูตึกสไตล์โคโลเนียลเก่าแก่ที่ถูกทาสีและปรับภูมิทัศน์ใหม่กลายเป็นย่านท่องเที่ยวสุดฮิตที่มีบูติกโฮเทลเยอะที่สุดในสิงคโปร์ รวมทั้งเยี่ยมชมพระสารีริกธาตุในวัดพระเขี้ยวแก้วชื่อดัง วัดจีนศิลปกรรมสมัยราชวงศ์ถังผสมศิลปะมันดาลา (Mandala) หลังใหญ่โตอลังการ ตั้งตระหง่านอยู่ในไชน่าทาวน์ (China Town) ซึ่งอาคารชั้นบนสุดของวัดได้บรรจุพระสารีริกธาตุพระทนต์ของพระพุทธเจ้าไว้ในสถูปทองคำหนักกว่า 320 กิโลกรัม ที่ได้มาจากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา นอกจากนี้ภายในวัดก็

ยังมีพิพิธภัณฑสถานทางพุทธศาสนาขนาดย่อม ให้ผู้มาสักการะได้ศึกษา และเยี่ยมชมอีกด้วย ก่อนจะข้ามไปชิมข้าวมันไก่เทียนๆ เลื่องชื่อที่ Maxwell Food Centre


Fountain of Wealth 















น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง สร้างขึ้นมาอยู่กลางหมู่ตึก Suntec City อาคารสำนักงานที่แสนทันสมัยทั้งห้าที่ออกแบบมาให้เป็นนิ้วห้านิ้ว โดยมีน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางประหนึ่งอยู่ในอุ้งมือของเรา สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นมาตามหลักฮวงจุ้ยที่เชื่อว่าจะสร้างความมั่งคั่งให้กับใครก็ตามที่ได้มาเยือน



Night Safari 





ได้ชื่อว่าเป็นสวนสัตว์เปิดกลางคืนแห่งแรกของเอเชียที่ถูกออกแบบมาให้อยู่ท่ามกลางสภาพป่าทางตอนเหนือของเกาะสิงคโปร์












River Safari 

















สวนสัตว์ทางน้ำที่เพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดเมื่อต้นเดือนเมษายน 2013 รวบรวมสัตว์ที่อาศัยหากินอยู่ตามชายน้ำต่างๆ เข้ามาไว้ด้วยกัน โดยแบ่งโซนเป็นแม่น้ำชื่อดังสายต่างๆ ที่นี้ยังเป็นบ้านของ เจีย เจีย และ ไค ไค สองแพนด้ายักษ์คู่เดียวในประเทศที่ประเทศจีนส่งมาให้เป็นฑูตทางวัฒนธรรม ความพิเศษของสวนสัตว์แห่งนี้อยู่ที่โซนล่องเรือชมสวนสัตว์เปิดที่จะเปิดให้บริการภายในไม่เกินสิ้นปีนี้

Singapore Botanic Gardens
















มีสิ่งมีชีวิตอยู่มากกว่า 3,000 สายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของต้นไม้เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนซึ่งเป็นหัวใจหรือปอดของเมืองใหญ่ที่มีแต่ความวุ่นวายเหล่านี้ ไม่น่าแปลกใจที่จะมี นักวิ่ง, คนรำไทเก็ก และผู้ที่เข้ามานั่งเล่น และปิกนิกกันในสวนแห่งนี้ในช่วงวันหยุด ซึ่งเป็นการพักผ่อนที่ดี เพื่อหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือเพื่อเข้าชมสวนกล้วยไม้จากสวนดอกไม้แห่งชาติสิงคโปร์ ณ the National Orchard Gardens
National Museum of Singapore












เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตแห่งหนึ่งของโลก ซึ่ง the National Museum of Singapore จะใช้ระบบ one-stop guide เพื่อบอกกล่าวถึงประวัติของประเทศสิงคโปร์และพื้นหลังทางวัฒนธรรม


วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple)


วัดฮินดูโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ ตั้งอยู่ในไชน่าทาวน์ (China Town) หรือที่ชาวไทยเรานิยมเรียกจนติดปากกันว่า “วัดแขก สิงคโปร์” รอบๆ ตัวอาคารของวัดทั้งภายในและภายนอก จะมีปะติมากรรมรูปปั้นและรูปแกะสลักลงสีสันสดใสของเทพเจ้า เทพธิดา และสัตว์ร้ายในเทพนิยาย มีความเชื่อกันว่าหากคุณเดินตามเข็มนาฬิการอบพระอุโบสถวัดให้เป็นเลขคี่ คุณจะโชคดี และในช่วงเดือนตุลาคม –พฤศจิกายนของทุกปี จะมีประเพณีลุยไฟทิมิติ (Timiti) ถือเป็นเทศกาลสำคัญประจำปีของวัดนี้


วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kwan Im Thong Hood Cho Temple)

















วัดเจ้าแม่กวนอิม ที่มีความเชื่อกันว่าหากไปขอพรแล้วจะสมหวัง จึงไม่น่าแปลกใจหากคุณจะเห็นฝูงชนมากมายต่อคิวเข้าไปสักการะขอพรในวัด และหากคุณเชื่อในเรื่องโชคลาง เซียมซีที่วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความแม่นยำยิ่งนัก เนื่องด้วยจำนวนผู้คนที่มาสักการะเป็นจำนวนมาก จึงมีการห้ามถ่ายรูปภายในตัววัด และหากพนักงานของวัดมาเก็บธูปของคุณออกจากกระถางหลังจากคุณปักลงไป เพื่อให้ผู้มาสักการะคนถัดมามีที่ปักธูปได้ ก็อย่าไปโกรธเขาเลย




วัดเซียนฮกเก๋ง (Thian Hock Keng Temple)

















วัดเซียนฮกเก๋ง หรือวัดแห่งความสุขบนสรวงสวรรค์ สร้างขึ้นเพื่อถวายเทพธิดาแห่งท้องทะเล ที่เชื่อกันว่าช่วยคุ้มครองให้ผู้อพยพเดินทางมาถึงฝั่งเกาะสิงคโปร์ได้โดยปลอดภัย เป็นวัดที่มีความวิจิตรงดงามมาก และขึ้นชื่อได้ว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในสิงคโปร์ ความอัศจรรย์ใจอีกอย่างของวัดนี้ก็คือ โครงสร้างทั้งหมดของวัดถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว นอกจากนี้ยามคุณจะเดินเข้าภายในตัววัด จะต้องยกเท้าก้าวข้ามธรณีประตูซึ่งมีความสูงเป็นพิเศษ เชื่อกันว่าไว้ป้องกันภูติผีเข้ามาในวัด และเพื่อให้คนที่เข้ามาสักการะก้มหัวทำความเคารพก่อนเดินเข้าวัด


พูเลา อูบิน (Pulau Ubin)


หมู่บ้านชนบทขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสิงคโปร์ เป็นเมืองชาวเกาะเรียบง่ายที่ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์ที่สุดในสิงคโปร์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศชีวิตเรียบง่าย และอาหารพื้นเมืองรสดั้งเดิม กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ การขี่จักรยานชมทิวทัศน์รอบเมือง ที่มีทั้งฟาร์มกุ้ง ฟาร์มปลา ป่าโกงกาง สวนยางพารา และสวนมะพร้าว ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และพักรบความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ได้เป็นอย่างดี